วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 2.0% หลัง ECB ประกาศใช้ QE

หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ครั้งใหญ่ ด้วยการซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้ไปจนถึงเดือนกันยายน 2016 เพื่อแก้ปัญหาเงินฝืด ได้เกิดแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มรับเหมาฯ พลังงาน ธนาคาร หนุน SET ปรับสูงขึ้น 1.49% ปิดที่ 1,560.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,386 ล้านบาท โดยการปรับสูงขึ้นเหนือ 1,540 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายหนาแน่น ถือว่าเป็นสัญญาณ “กลับตัว” ประเมินเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 1,600 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มธนาคาร รับเหมาฯ อสังหาฯ (เก็งลดดอกเบี้ย)

นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรป ยังได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.05% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่ -0.20% และตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่ 0.30%

แม้ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังได้ส่งสัญญาณให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาเรื่องการปรับลดดอกเบี้ย เพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งค่าจนเกินไป และเป็นการช่วยเหลือผู้ส่งออกและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จะได้รับผลกระทบจากการที่ ECB ใช้มาตรการ QE

อย่างไรก็ตาม เมื่อวาน (28 ม.ค. 58) ผลการประชุมของ กนง. โดยนายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการฯ คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.00 ต่อปี โดย 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการตัดสินนโยบาย กรรมการส่วนใหญ่ประเมินว่านโยบายการเงินปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ ผ่อนปรนเพียงพอต่อการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงิน ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องมานานและตลาดการเงินโลกมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น อย่างไรก็ดี กรรมการ 2 ท่านเห็นว่านโยบายการเงินควรสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในช่วงที่ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกมีมากขึ้น แรงกระตุ้นจากภาคการคลังยังต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลชัดเจน และอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำมากไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงปรับสูงขึ้น

อสังหาริมทรัพย์,นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์,อบรม,สัมมนา,รวยด้วยอสังหา,2558,ลงทุน,อสังหา,ลงทุนบ้าน,ลงทุนคอนโด,นายหน้า,ที่ดิน,คอนโด,บ้าน,อสังหา 2558,กฎหมายอสังหา,ข่าวอสังหา

วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

การถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินของชาวต่างชาติในประเทศไทย

การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ของคนต่างด้าว


คนต่างด้าวที่ได้นำเงินมาลงทุนตามจำนวนที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งต้องไม่ ต่ำกว่าสี่สิบล้านบาทอาจขอได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ไม่ เกินหนึ่งไร่ และต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี โดยในการขอได้มาซึ่งที่ดินดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ วิธิการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ตามนัยมาตรา ๙๖ ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ดังนี้

๑. กรณีคนต่างด้าวซึ่งได้นำเงินมาลงทุน มีความประสงค์จะขออนุญาตให้ได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ให้ยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๗๑ ตามแบบ ต.๔ พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้
๑.๑ ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวซึ่งออกให้โดยสถานีตำรวจท้องที่ที่คนต่างด้าวมี ภูมิลำเนาอยู่ หรือใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ซึ่งออกให้โดย กองตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือเอกสารหนังสือเดินทางแสดงสัญชาติของคนต่างด้าว

๑.๒ หลักฐานเกี่ยวกับการลงทุนในประเภทของธุรกิจหรือกิจการประเภทหนึ่งประเภทใด ที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๕ ดังนี้
๑.๒.๑ หนังสือรับรองการลงทุนจากผู้ขายพันธบัตร และพันธบัตรรัฐบาลไทย พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือพันธบัตรที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินหรือดอกเบี้ย

๑.๒.๒ หนังสือรับรองการลงทุนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ว่าได้ลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน หรือกองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และหลักฐานการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าว

๑.๒.๓ หลักฐานการลงทุนในการลงทุนเรือนหุ้นของนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลง ทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของนิติบุคคล และบัตรส่งเสริมที่แสดงว่านิติบุคคลดังกล่าวได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

๑.๒.๔ หลักฐานการลงทุนในกิจการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ประกาศให้เป็น กิจการที่สามารถขอรับการส่งเสริมการลงทุนได้ตาม กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของนิติบุคคล และหนังสือคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ระบุว่ากิจการที่นิติบุคคลดังกล่าว ดำเนินการอยู่เป็นกิจการที่สามารถขอรับการส่งเสริมการลงทุนได้
อนึ่ง หลักฐานตาม ๑.๒.๑ ถึง ๑.๒.๔ จะใช้ข้อหนึ่งข้อใดหรือหลายข้อรวมกัน ก็ได้ แต่ต้องมีจำนวนไม่ต่ำกว่าสี่สิบล้านบาท

๑.๓ หลักฐานการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร หรือหลักฐานการถอนเงินจากบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ หรือหลักฐานการถอนเงินจากบัญชีเงินบาทของบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ เพื่อการลงทุน
อนึ่ง หลักฐานดังกล่าวจะใช้อย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างรวมกันก็ได้ แต่ต้องมีจำนวนไม่ต่ำกว่าสี่สิบล้านบาท

๑.๔ หนังสือรับรองจากผังเมืองจังหวัดว่าที่ดินที่จะขอให้ได้มาอยู่ภายในบริเวณ ที่กำหนดเป็นประเภทที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง เฉพาะกรณีที่ดินนั้นอยู่นอกเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล

๑.๕ หนังสือรับรองจากกระทรวงกลาโหมหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าที่ดินอยู่นอกเขตปลอดภัยในราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยเขตปลอดภัยในราชการ ทหาร

๑.๖ แผนที่สังเขปแสดงที่ตั้งของที่ดินขออนุญาต

๑.๗ ในกรณีที่ผู้ขอเป็นผู้มีสิทธิ์ในที่ดินอยู่แล้วในขณะที่ยื่นคำขอให้ได้มาซึ่งที่ดิน ให้แสดงหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวด้วย


๒. ผู้ได้รับอนุญาตต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่าห้าปี และแสดงหลักฐานการถือครองการลงทุน ตาม ๑.๒ แล้วแต่กรณีที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งต้องมีจำนวนไม่ต่ำกว่าสี่สิบล้านบาทต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๗๑ ปีละครั้ง ก่อนหรือภายในวันครบรอบปีของการจดทะเบียนการได้มาซึ่งที่ดินเป็นระยะเวลาห้า ปีติดต่อกัน

๓. ผู้ได้รับอนุญาตต้องใช้ที่ดินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับตนเองหรือครอบ ครัวโดยไม่ขัดต่อศีลธรรม จารีตประเพณี หรือวิถีชีวิตอันดีของชุมชนในท้องถิ่นนั้น

๔. ผู้ได้รับอนุญาตต้องแจ้งการใช้ที่ดินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๗๑ ทราบภายในหกสิบวันนับแต่วันที่เริ่มใช้ที่ดินนั้น

๕. เมื่อได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๗๑ ผู้ได้รับอนุญาตต้องอำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามสมควรในการกำกับ ดูแลการใช้ที่ดินนั้นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

๖. ถ้าผู้ได้รับอนุญาตถอนการลงทุนในธุรกิจหรือกิจการที่ลงทุนก่อนครบกำหนดเวลา การดำรงทุนตาม ๒ ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๗๑ ทราบภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ถอนการลงทุน

๗. ผู้ได้รับอนุญาตต้องใช้ที่ดินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยภายในกำหนดเวลาสองปีนับแต่วันจดทะเบียนการได้มา

๘. ถ้าไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขตาม ๒ หรือ ๖ ดังกล่าว อธิบดีมีอำนาจสั่งให้ผู้ได้รับอนุญาตจัดการจำหน่ายที่ดิน ในส่วนที่ผู้ได้รับอนุญาตมีสิทธิ์ภายในเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปี ถ้าพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวอธิบดีมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้น และถ้าไม่ปฏิบัติตาม ๗ อธิบดีมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้น

๙. เอกสารที่เป็นภาษาต่างประเทศ ต้องแปลเป็นภาษาไทย ส่วนการรับรองความถูกต้องของคำแปลเป็นภาษาไทย ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง (พ.ศ.๒๕๔๐) ออกตามความในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙

๑๐. กรณีนำเงินลงทุนมาลงทุนแล้วสี่สิบล้านบาท และซื้อที่ดินไม่ครบ ๑ ไร่ ต่อมาต้องการซื้อที่ดินเพิ่มอีกภายในระยะเวลาที่ดำรงการลงทุน สามารถใช้หลักฐานการลงทุนเดิมมาใช้ประกอบคำขอได้


การขอได้มาซึ่งที่ดินหรือห้องชุดของคนต่างด้าว และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว


๑. กรณีคนต่างต่างด้าวขอได้มาซึ่งที่ดิน ปัจจุบันคนต่างด้าวสามารถที่จะขอได้มาซึ่งที่ดินในประเทศไทยได้ใน ๓ กรณี คือ
๑.๑ โดยการขอรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม ตามมาตรา ๙๓ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งเมื่อรวมกับที่ดินที่มีอยู่เดิมแล้ว (หรือยังไม่เคยมี) ต้องไม่เกินจำนวนที่จะพึงมีได้ ตามความในมาตรา ๘๗ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เช่น ที่อยู่อาศัยไม่เกิน ๑ ไร่



๑.๒ คนต่างด้าวทึ่ได้นำเงินมาลงทุนตามจำนวนที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งไม่ต่ำกว่าสี่สิบล้านบาท อาจขอให้ได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ไม่ได้เกินหนึ่งไร่ และต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี โดยในการขอได้มาซึ่งที่ดินดังกล่าวต้องไปเป็นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ตามนัยมาตรา ๙๖ ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

๑.๓ คนต่างด้าวอาจขอได้มาซึ่งที่ดินตามกฎหมายอื่น เช่น พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. ๒๕๒๐ ซึ่งสามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ที่สำนักคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โทร ๐-๒๕๓๗-๘๑๑๑ หรือพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.๒๕๒๒ โดยสามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โทร ๐-๒๒๕๓-๐๕๖๑ หรือ ตามพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔


๒. กรณีคนต่างด้าวขอถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด

คนต่างด้าวหรือนิติบุคคลซึ่งกฎหมายถือว่าเป็นคนต่างด้าวจะถือ กรรมสิทธิ์ในห้องชุดในประเทศไทยได้ ต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ ๒ ประการ หากขาดหลักเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่อาจจะถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดดังกล่าว ได้ กล่าวคือ



๒.๑ ต้องเป็นคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลซึ่งกฎหมายถือว่าเป็นคนต่างด้าวตามมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติอาคารชุดฯ กรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้



(๑) เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้มีถิ่นทิ่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่า ด้วยคนเข้าเมือง โดยแสดงหลักฐาน หนังสือเดินทางแสดงสัญชาติของคนต่างด้าว และใบสำคัญถิ่นที่อยู่ (แบบ ตม.๑๑, ตม.๑๕ หรือ ตม.๑๗ อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วแต่กรณี) ซึ่งออกให้โดยกองตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสำหรับคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวซึ่งออกให้โดยสถานี ตำรวจ ท้องที่ที่คนต่างด้าวมีภูมิลำเนาอยู่ ก็สามารถใช้เป็นหลักฐานขอได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในห้องชุดในกรณีนี้ได้ โดยไม่ต้องนำหนังสือเดินทางมาแสดงอีก

(๒) เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน โดยแสดงหลักฐานหนังสือเดินทางแสดงสัญชาติของคนต่างด้าว และหนังสือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่รับรองว่าเป็นคนต่างด้าว ที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน

(๓) เป็นนิติบุคคลซึ่งกฎหมายถือว่าเป็นคนต่างด้าวที่กำหนดไว้ในมาตรา ๙๗ และ มาตรา ๙๘ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งจดทะเบียนเป็นจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาบไทย โดยแสดงหลักฐานการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย เช่น บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียนแล้ว ต้องแสดงหลักฐานหนังสือรับรองของนายทะเบียนหุ้นส่วนจำกัด กรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น

(๔) เป็นนิติบุคคลซึ่งเป็นคนต่างด้าวตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคน ต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒ และได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน โดยแสดงหลักฐานหนังสือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่รับรองว่าเป็นผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมาว่าด้วยการส่งเสริม การลงทุน

(๕) คนต่างด้าวหรือนิติบุคคลที่กฎหมายถือว่าเป็นคนต่างด้าวซึ่งนำเงินตราต่าง ประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร หรือถอนเงินจากบัญชีเงินบาทของบุคคลที่มีถิ่นฐานอยู่นอกประเทศ หรือถอนเงินจากบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ต้องแสดงหลักฐานดังต่อไปนี้


๒.๒ การถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของคนต่างด้าวและนิติบุคคลดังกล่าวในข้อ ๒.๑ เมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกินอัตราร้อยละสี่สิบเก้าของเนื้อที่ห้องชุดทั้ง หมดในอาคารชุดนั้นในขณะที่ขอจดทะเบียนอาคารชุดตามมาตรา ๖ โดยมีข้อยกเว้นดังนี้



ก. สำหรับอาคารชุดใดที่จะมีคนต่างด้าวและหรือนิติบุคคลตามที่ระบุไว้ในข้อ ๒.๑ ถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดเกินกว่าอัตราร้อยละสี่สิบเก้า อาคารชุดนั้นจะต้องอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเทศบาล หรือเขตเมืองพัทยา มีที่ดินที่ตั้งอาคารชุดรวมกับที่ดินที่มีไว้เพื่อใช้ หรือเพื่อประโยชน์ร่วมกันสำหรับเจ้าของร่วมทั้งหมดไม่เกินห้าไร่ มีห้องชุดไม่น้อยกว่าสี่สิบห้องชุด ได้จดทะเบียนเป็นอาคารชุดมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปีก่อนวันที่จะขอให้คน ต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดเกินร้อยละสี่สิบเก้า และอาคารชุดนั้นต้องไม่ตั้งอยู่ในบริเวณเขตปลอดภัยในราชการทหารตามกฎหมายว่า ด้วยเขตปลอดภัยในราชการทหาร

ข. เมื่อครบกำหนดเวลาห้าปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัติอาคารชุด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ ใช้บังคับ(วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๔๒) กฎหมายบัญญัติให้ยกเลิกความในข้อ ก. และให้คนต่างด้าวและนิติบุคคลที่ได้ห้องชุดมาตามข้อ ก. หรือคนต่างด้าวและนิติบุคคลที่ระบุไว้ในข้อ ๒.๑ ซึ่งรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่อเนื่องจากคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลดังกล่าว ถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดนั้นต่อไปได้ แม้ว่าจะเกินอัตราร้อยละสี่สิบเก้าของเนื้อที่ของห้องชุด



๓. กรณีบุคคลสัญชาติไทยที่มีหรือเคยมีคู่สมรสเป็นคนต่างด้าวและบุคคลสัญชาติไทยที่เป็นบุตรผู้เยาว์ของคนต่างด้าว ขอได้มาซึ่งที่ดิน



๓.๑ กรณีบุคคลสัญชาติไทยที่มีคู่สมรสโดยชอบหรือมิชอบด้วยกฎหมายเป็นคนต่างด้าวขอ ซื้อที่ดินหรือขอรับโอนที่ดินในกรณีอื่นที่คล้ายคลึงกันในระหว่างสมรส หรือในระหว่างอยู่กินฉันสามีภรรยากับคนต่างด้าว แล้วแต่กรณี หากสอบสวนแล้ว ผู้ขอและคู่สมรสที่เป็นคนต่างด้าวได้ยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรร่วมกันว่า เงินที่บุคคลสัญชาติไทยนำมาซื้อที่ดินทั้งหมดเป็นสินส่วนตัวหรือทรัพย์ส่วน ตัวของบุคคลสัญชาติไทยแต่เพียงผู้เดียว มิใช่สินสมรสหรือทรัพย์ที่ทำมาหาได้ร่วมกัน พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้ต่อไปได้
สำหรับกรณีที่คู่สมรสของบุคคลสัญชาติไทย ที่ประสงค์จะซื้อที่ดินหรือห้องชุดนั้นอยู่ต่างประเทศและไม่สามารถไปยืนยัน เป็นลายลักษณ์อักษรร่วมกันกับคู่สมรสต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็ให้คู่สมรสที่เป็นคนต่างด้าวไปดำเนินการบันทึกถ้อยคำเป็นลายลักษณ์อักษร ที่สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีปัปลิค ให้ได้ใจความว่า เงินทั้งหมดที่คู่สมรสที่เป็นบุคคลสัญชาติไทยนำไปซื้อที่ดิน หรือห้องชุดนั้นเป็นสินส่วนตัว หรือทรัพย์ส่วนตัวของคู่สมรสที่เป็นบุคคลสัญชาติไทยทั้งหมด ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นสินสมรส หรือเป็นทรัพย์สินที่คู่สมรสต่างด้าวมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมด้วยแต่อย่างใด และให้พนักงานเจ้าหน้าที่รับรองว่าบุคคลที่ทำหนังสือนั้นเป็นคู่สมรสของ บุคคลสัญชาติไทยจริง เสร็จแล้ว ถือมามอบให้เจ้าพนักงานที่ดินที่จะทำการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้ ก็จะดำเนินการได้

อนึ่ง สำหรับกรณีคนไทยที่มีคู่สมรสเป็นคนต่างด้าวที่ซื้อ หรือถือครองที่ดินหลังสมรส โดยแจ้งหรือยื่นเอกสารที่เป็นเท็จว่าเป็นโสดหรือไม่ได้สมรสกับคนต่างด้าวต่อ เจ้าหน้าที่ก่อนที่กระทรวงมหาดไทยจะมีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ มท ๐๗๑๐/ว ๗๙๒ ลงวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๔๒ หรือซื้อ หรือถือครองกรรมสิทธิ์ในห้องชุดหลังสมรส โดยแจ้งหรือยื่นเอกสารเป็นเท็จว่าเป็นโสด หรือไม่ได้สมรสกับคนต่างด้าวก่อน กรมที่ดินมีหนังสือ มท ๐๗๑๐/ว ๓๔๑๖๗ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๒ ให้คู่สมรสที่เป็นคนต่างด้าวทั้งที่ชอบและมิชอบด้วยกฎหมายมายืนยันเป็นลาย ลักษณ์อักษรร่วมกันกับคู่สมรสต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่า เงินที่บุคคลสัญชาติไทยนำมาซื้อที่ดินหรือห้องชุดทั้งหมดเป็นสินส่วนตัวหรือ ทรัพย์ส่วนตัวของบุคคลสัญชาติไทยแต่เพียงฝ่ายเดียว มิใช่สินสมรสหรือทรัพย์ที่ทำมาหาได้ร่วมกัน เสร็จแล้วเจ้าพนักงานที่ดินเก็บเข้าสารบบไว้ และหากคู่สมรสที่เป็นคนต่างด้าวอยู่ต่างประเทศ และไม่สามารถไปยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรร่วมกันกับคู่สมรสต่อพนักงานเจ้า หน้าที่ได้ ก็ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับกรณีคู่สมรสของบุคคลสัญชาติไทย ที่ประสงค์จะซื้อที่ดินหรือห้องชุดอยู่ต่างประเทศ เสร็จแล้วนำมามอบให้เจ้าพนักงานที่ดินเก็บเข้าสารบบไว้

๓.๒ กรณีบุคคลสัญชาติไทยที่มีคู่สมรสทั้งที่ชอบและมิชอบด้วยกฎหมายเป็นคน ต่างด้าวขอรับให้ที่ดินในระหว่างสมรส หรือระหว่างอยู่กินฉันสามีภรรยากัน หากสอบสวนแล้วเป็นการรับให้ในฐานะเป็นสินส่วนตัว หรือทรัพย์ส่วนตัวของตนแต่เพียงฝ่ายเดียว มิได้ทำให้คนต่างด้าวเป็นเจ้าของในที่ดินร่วมด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้ต่อไป

๓.๓ กรณีบุคคลสัญชาติไทยที่เคยมีคู่สมรสเป็นคนต่างด้าว แต่ได้หย่าขาดกัน หรือเลิกร้างกันแล้ว หรือบุตรผู้เยาว์ของคนต่างด้าวที่มีสัญชาติไทยขอทำนิติกรรมให้ได้มาซึ่ง ที่ดิน หากสอบสวนแล้วไม่ปรากฏพฤติการณ์หลีกเลี่ยงกฎหมาย พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่อไป


๔. กรณีบุคคลสัญชาติไทยที่มีหรือเคยมีคู่สมรสเป็นคนต่างด้าวและบุคคลสัญชาติไทย ที่เป็นบุตรผู้เยาว์ของคนต่างชาติขอถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด



๔.๑ กรณีบุคคลสัญชาติไทยที่มีคู่สมรสทั้งที่ชอบและมิชอบด้วยกฎหมายเป็นคน ต่างด้าว ขอซื้อหรือขอรับให้กรรมสิทธิ์ในห้องชุด ในฐานะที่เป็นสินส่วนตัว หรือทรัพย์ส่วนตัวของตนแต่เพียงฝ่ายเดียว (ย่อมถือว่ากรรมสิทธิ์ในห้องชุดเป็นของบุคคลสัญชาติไทย) หรือกรณีที่บุคคลสัญชาติไทย ที่เคยมีคู่สมรสเป็นคนต่างด้าวแต่ได้หย่าขาดจากกันหรือเลิกร้างกันแล้ว หรือกรณีบุตรผู้เยาว์ของคนต่างด้าวที่มีสัญชาติไทยขอได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ใน ห้องชุดให้พิจารณาเช่นเดียวกับกรณี ตาม ๓.๑ ถึง ๓.๒ โดยอนุโลม

๔.๒ กรณีบุคคลสัญชาติไทยที่มีคู่สมรสทั้งที่ชอบและมิชอบด้วยกฎหมายเป็นคน ต่างด้าวนำเงินที่เป็นสินสมรส หรือทรัพย์ที่ทำมาหาได้ร่วมกัน แล้วแต่กรณี มาขอซื้อห้องชุดไม่ว่าจะใช้ชื่อบุคคลสัญชาติไทยแต่เพียงฝ่ายเดียว หรือใช้ชื่อร่วมกับคู่สมรสที่เป็นคนต่างด้าว ต้องพิจารณาตัวบุคคลต่างด้าวเป็นสำคัญ โดยคู่สมรสที่เป็นคนต่างด้าวนั้นต้องเป็นคนต่างด้าวตามนัยมาตรา ๑๙ (๑) หรือ (๒) หรือ (๕) แล้วแต่กรณี คู่สมรสที่เป็นคนไทยจึงมีสิทธิขอซื้อห้องชุดได้ตามสิทธิของคู่สมรสที่เป็นคน ต่างด้าว และต้องถือว่าห้องชุดนั้น คนต่างด้าวเป็นผู้ถือสิทธิ์ทั้งหมด เพราะกรรมสิทธิ์ในห้องชุดไม่อาจแบ่งแยกได้ และการถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดนั้นต้องอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติตามมาตรา ๑๙ ทวิ

๔.๓ กรณีบุคคลสัญชาติไทยที่มีคู่สมรสทั้งที่ชอบและมิชอบด้วยกฎหมายเป็นคน ต่างด้าว ขอรับให้กรรมสิทธิ์ในห้องชุด ในฐานสินสมรส หรือทำให้คนต่างด้าวมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมด้วย คนต่างด้าวซึ่งเป็นคู่สมรสของบุคคลสัญชาติไทยนั้น ต้องเป็นคนต่างด้าวตามนัยมาตรา ๑๙ (๑) หรือ (๒) และต้องถือว่ากรรมสิทธิ์ในห้องชุดนั้นเป็นของคนต่างด้าวทั้งหมด และอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติ มาตรา ๑๙ ทวิ ด้วย ส่วนบุคคลสัญชาติไทยที่มีคู่สมรสเป็นคนต่างด้าว ตามมาตรา ๑๙ (๕) ไม่อาจรับให้กรรมสิทธิ์ในฐานะสินสมรสได้ เนื่องจากกรณีตามมาตรา ๑๙ (๕) เป็นการขอได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของคนต่างด้าวในลักษณะของการซื้อขาย ซึ่งต้องมีการชำระค่าห้องชุด

กฎหมายอสังหา อสังหาริมทรัพย์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อบรม สัมมนา รวยด้วยอสังหา 2558 ลงทุน อสังหา ลงทุนบ้าน ลงทุนคอนโด นายหน้า ที่ดิน คอนโด บ้าน อสังหา 2558

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558

คู่มือมนุษย์: พุทธทาสภิกขุ



"คู่มือมนุษย์" หนังสือที่จัดพิมพ์โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม พิมพ์เผยแพร่ พ.ศ. 2552 ห้ามซื้อ-ขาย

"ตามที่คุณปุ่น จงประเสริฐ ผู้ก่อตั้งองค์การฟื้นฟูพุทธศาสนาได้ย่นใจความและตัดทอนคำไม่จำเป็นในคำบรรยายหลักพระพุทธศาสนา เล่ม 1 แห่งชุดตุลาการิกธรรม ของข้าพเจ้าให้เหลือรัดกุม และเปลี่ยนแปลงถ้อยคำจากคำวัดๆ มาเป็นคำบ้านๆ เพื่อสะดวกแก่ผู้ที่ไม่คุ้นกับภาษาวัด โดยเฉพาะ คือภาษาบาลี ดังที่ปรากฎเป็นหนังสือเล่มนี้ เพื่อเผยแพร่ไปในหมู่นที่หาเวลาว่างได้ยากแล้วจัดพิมพ์ขึ้นเผยแพร่ในนามขององค์การฟื้นฟูพุทธศาสนา โดยวิธีชักชวนผู้มีศรัทธาบางท่านหรือบางพวก บางคณะให้ช่วยกันออกทุนจำนวนหนึ่งๆ จัดพิมพ์ขึ้นแจกจ่ายไม่มีการจำหน่ายที่เป็นการมุ่งค้าหากำไร เพื่อให้เป็นการช่วยกัยเผยแพร่ธรรม ตามที่ข้าพเจ้าแสดงอย่งากว้างขวางออกไปอีกทางหนึ่งนั้น ข้าพเจ้าได้พิจารณาถึงเจตนาดีและการกระทำอันนี้แล้ว ขออนุโมทนาในการกระทำของบรรดาท่านทั้งหลายนี้ด้วยเป็นอย่างสูง

ข้าพเจ้าขอแสดงความหวังอย่างยิ่งไว้ในที่นี้ด้วยว่าหนังสือเล่มนี้ จักเป็นบันไดขั้นต้น หรือเป็นหนังสือเล่มแรกที่ถ้าศึกษาให้ละเอียดตลอดแล้ว จะสะดวกแก่การศึกษาธรรมะในขั้นสูงเรื่องอื่นๆ ที่ข้าพเจ้าเคยแสดงไว้ในที่ต่างๆ สืบไปโดยแน่นอน"

คำอนุโมทนา (เกี่ยวกับคู่มือมนุษย์) ของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)

บทเรียนล้ำค่าจาก JACK MA ผู้ก่อตั้ง ALIBABA



บทเรียนล้ำค่าจาก JACK MA ผู้ก่อตั้ง ALIBABA ชายผู้ที่ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในประเทศจีน

Jack Ma ประธานบริษัท Aliababa เป็นผู้ประกอบการชาวจีนคนแรกที่ได้ปรากฏอยู่บนหน้าปกหนังสือ Forbes Magazine และได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่รวยที่สุดในโลก


วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

PASSIVE INCOME

สภาพสังคมปัจจุบันที่ผู้คนวันทำงานถูกบีบรัดด้วยรูปแบบการดำรงชีวิตที่ชวนให้อึดอัด ถูกผูกมัดด้วยข้อจำกัดนานานับประการ ตื่นเช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้าน นับวันรอให้ถึงวันอาทิตย์เพื่อจะได้หลบหลีกเสียงนาฬิกาที่ปลุกทุกเช้าวันจันทร์ถึงเสาร์ และเริ่มหดหู่ในตอนค่ำๆ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเป็นวันจันทร์ สัญญาณเตือนว่าชีวิตจะต้องกลับเข้าสู่วงจรซ้ำซากจำเจอีกครั้ง หากจะพอมีเวลาบ้างก็นั่งกางปฏิทินนับวันหยุดหาวันลา หากต้องทำงานในเมืองหลวงก็ต้องนับช่วงเวลาที่จะต้องฝ่าดงยานพาหนะที่แออัดยัดเยียดอยู่บนท้องถนน กว่าจะไปถึงที่ทำงานทั้งเช้าและเย็นอีก

ในการทำงานก็จะต้องพบเจอกับมรสุมที่ไม่รู้วันใดจะพัดผ่านเข้ามาเป็นระยะๆ ถูกกดดันจากเจ้านาย จากเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ ก็ต้องทนทำเพราะมิฉะนั้น โซ่ตรวจทางการเงินที่ล่ามไว้ก็จะบีบรัดจนหายใจไม่ออก

หลายคนจึงใฝ่ฝันถึงวันที่จะได้หลุดพ้นจากวงจรชีวิตซ้ำซากเช่นนี้ ร่ำร้องหาอิสรภาพการทำงาน การเงิน เพื่อปลดโซ่ตรวนที่พันธนาการไว้ด้วยเวลาและภาระจนไม่เหลือเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตอิสระอย่างเต็มที่ ได้ทำทุกอย่างที่ใจปรารถนา โดยเฉพาะในสภาพสังคมปัจจุบันที่เงินเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญที่นอกจากจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นยังทำให้ได้รับอิสรภาพในด้านต่างๆ ได้ด้วย ชนชั้นกลาง หรือมนุษย์เงินเดือนจึงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะค้นพบหนทางและวิธีที่จะได้รับ "อิสรภาพทางการเงิน"

เพื่อปลดเปลื้องพันธนาการต่างๆ ข้างต้นจึงพุ่งเป้ามาที่การหาวิธีที่จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของ PASSIVE INCOME ที่หลายคนถวิลหา ด้วยพยายามจะเปลี่ยนจากรูปแบบการสร้างรายได้จาก Active Income เราทำงานเพื่อเงิน เป็นการได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของ Passive Income เงินทำงานเพื่อเราแทน บ้างก็ประสบความสำเร็จ บ้างก็ล้มเหลว หรือให้ผลตอบแทนไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดอิสรภาพทางการเงินได้ ขึ้นกับว่าเลือกลงทุนในรูปแบบใด ธุรกิจที่ได้ลงทุนไปนั้นมีการบริหารจัดการเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หรือบางคนอาจจะมีการใช้ Active Income ก่อนจะถึงวันที่ได้รับ Passive Income หรืออาจจะมีการใช้ Active Income แทรกเป็นระยะ

การนำเงินออมมาเป็นเงินลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนในรูปแบบของ Passive Income หรือให้เงินทำงาน มีมากมายหลากหลายรูปแบบและวิธีการ โดยทุกคนก็จะพิจารณาเรื่องอัตราผลตอบแทนก่อนเป็นอันดับแรก และอาจจะมองข้ามเรื่องความเสี่ยงไปเลย โดยเฉพาะการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงมากๆ

ความเสี่ยงในที่นี้นอกจากเรื่องไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง ซึ่งอาจจะอยู่ในลักษณะของดอกเบี้ย หรือเงินปันผล ยังรวมถึงความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนบางส่วนหรือทั้งหมด หรือแม้แต่การลดต่ำลงของมูลค่าหน่วยลงทุนที่ถือครองไว้ด้วย

ซึ่งโดยทั่วไปหากบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมก็จะสามารถบริหารเงินลงทุนได้โดยที่เงินลงทุนก้อนแรกยังอยู่รอดปลอดภัย และเพิ่มพูนขึ้นในระดับที่ต้องการได้ เช่น หากอายุยังน้อยยังมีโอกาสสร้างรายได้หรือหาเงินลงทุนก้อนใหม่ได้ ก็อาจจะสามารถรับกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงมาก แต่หากอายุเริ่มมากยิ่งเข้าใกล้วัยเกษียณก็ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง โดยอาจจะเลือกลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ หรืออาจจะแบ่งพอร์ทการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและต่ำผสมกันอย่างมีแบบแผน เพราะการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงก็ไม่ได้น่ารังเกียจเสมอไป High Risk High Return ยิ่งมีความเสี่ยงมากก็ยิ่งให้ผลตอบแทนมาก ในขณะที่การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำก็จะได้รับผลตอบแทนน้อยด้วยเช่นกัน

ยกตัวอย่างการนำเงินไปลงทุนในทองคำเป็นที่นิยมสำหรับทุกเพศวัยเพราะเป็นทรัพย์สินความเสี่ยงต่ำ ลงทุนง่าย นอกจากจะใช้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อและค่าเงินของคนทั่วโลกแล้วยังใช้ เพื่อการเก็งกำไรทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้อีกด้วย ในประเทศไทยการลงทุนในทองคำมีหลายประเภทให้เลือก ไม่ว่าจะซื้อทองคำแท่งจากตู้แดงในร้านทอง การซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในทองคำ หรือการไปเก็งกำไรราคาทองคำในตลาดอนุพันธ์ ไล่เรียงไปก็จะพบกับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยจะเห็นได้ชัดจากการลงทุนทองคำในตลาดอนุพันธ์ที่ใช้เงินลงทุนต่ำกว่าการซื้อทองคำแท่งจากร้านทอง ให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็ต้องแลกมาซึ่งความเสี่ยงเพราะเป็นการซื้อขายกันในอากาศ ส่งมอบกันในอากาศ หากราคาทองคำที่สุดแสนจะผันผวนตกต่ำจนเกินจะรับไหวก็อาจจำใจยอมคัทลอส ตัดขายขาดทุนเพื่อรักษาเงินลงทุนที่เหลือไม่ให้หมดจนถูกบังคับปิดบัญชี ทำให้เงินลงทุนลดน้อยลง แตกต่างจากการซื้อทองคำแท่งจากร้านทอง ไม่ว่าราคาทองคำในตลาดโลกหรือราคาที่สมาคมค้าทองคำในประเทศประกาศจะเพิ่มจะลดก็เป็นเพียงมูลค่าต่อหน่วย แต่จำนวนหน่วยที่ซื้อไว้มิได้ลดลง หากราคาต่ำกว่าราคาที่ซื้อมาก็แค่ใส่ไหฝังดินไว้จนกว่าจะได้ราคาที่พอใจแล้วค่อยขาย อาจจะตกทอดถึงรุ่นหลานเหลนโหลน จำนวนทองคำที่ซื้อไว้ 1 กิโลก็มีน้ำหนักเท่าเดิมไม่ลดลงแม้ราคาตลาดอาจจะสูงขึ้นหรือลดลงไปจากราคาที่ซื้อมา

อย่างไรก็ตามจากตัวอย่างการซื้อทองคำแท่งจากร้านขายทองคำก็มีความเสี่ยงตั้งแต่ระดับเบาๆ ภาวะราคาทองคำในตลาดโลกตกต่ำ อัตราแลกเปลี่ยน ไปจนถึงความเสี่ยงแบบที่ซวยสุดๆ ถูกปล้น!!

เมื่อพิจารณาเรื่องความเสี่ยงแล้วอาจจะคิดว่าการออมด้วยการฝากประจำกินดอกเบี้ยน่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ทว่าผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากไม่สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้เลยไม่ว่าสมัยใด และใช่ว่าการฝากประจำจะไม่มีความเสี่ยง ความเสี่ยงที่ว่าก็คือ อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้ได้รับผลตอบแทนที่น้อยกว่าเป้าหมายที่วางแผนไว้ และบางทีการนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในพันธบัตรต่างประเทศ อัตราผลตอบแทนที่ได้รับอาจจะมากกว่า แต่ก็ต้องแลกด้วยความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีกนิด

สำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อที่จะทำให้ได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของ Passive Income ในส่วนของ Facility  Management หรือการบริหารจัดการอาคารสถานที่แบบใหม่ที่เข้ามาทดแทนการบริหารจัดการสถานที่แบบเดิม มิได้มีจุดมุ่งหมายเพียงแค่ดูแลอาคารให้เหมาะสมการใช้งานเพียงอย่างเดียว หากแต่ครอบคลุมถึงประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน การลงทุน การจัดการความเสี่ยง และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม แต่ละโครงการก็จะจัดไปตามคอนเซ็ปของตัวโครงการให้สอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนนี้จะลงรายละเอียดในการจัดสัมมนาเพื่อพัฒนานักอสังหาริมทรัพย์ของ Aim High โครงการแบบใดจัดแบบไหนจึงจะเหมาะสม และมีเทคนิคในการจัดการอย่างไร มีเครื่องมือใดที่จะช่วยในการบริหารจัดการ เพื่อให้ได้ Passive Income ที่ยั่งยืน

ตัวอย่าง Facility Management กรณีศึกษาของนักศึกษา จากเงินลงทุน ฿27,000,000 PB 1.89 ปี COF/CIF ได้ผลตอบแทนโครงการ >32%



Facility Management ไม่มีตัวแบบตายตัว รูปแบบเดียวใช้ไปจนวันตายคงเป็นไปไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องดำเนินการไปตามนโยบายของแต่ละโครงการ ซึ่งกว่าจะพัฒนามาเป็นโครงการได้ก็ผ่านสายตาที่เฉียบคม การคำนวณ วิเคราะห์ Cash Flow พิจารณาถึงความเป็นไปได้ของโครงการ

อสังหาริม ทรัพย์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อบรม สัมมนา รวยด้วยอสังหา 2558 ลงทุน อสังหา นายหน้า ที่ดิน คอนโด บ้าน อสังหา 2558 กฎหมายอสังหา ข่าวอสังหา

รวยเป็นหมู่คณะด้วย Connection&Network

แรงดึงดูดให้หลายคนสนใจอยากเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็คงหนีไม่พ้นผลตอบแทนจำนวนมหาศาล ในระยะเวลาอันสั้น อาจจะถึงสองหรือสามร้อยเปอร์เซ็นต์จากเงินลงทุนเลยทีเดียว แล้วแต่ความสามารถของแต่ละคน

นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือ ผู้ที่บริหารทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด เพิ่มมูลค่าด้วยกลยุทธ์และวิธีการต่างๆ จนกลายเป็นทรัพย์สินมูลค่าสูงลิบลิ่วจากมูลค่าเดิมก่อนการบริหารจัดการและพัฒนาหลายร้อยหลายพันเท่า จำเป็นด้วยหรือที่จะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาลมีเงินถุงเงินถังจึงจะเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้เท่านั้น

เพียงแค่ฉลาดที่จะลงทุน โจทย์ก็คือ..วิธีลงทุน และบริหารจัดการการลงทุนอย่างไร เทคนิคของใครก็ของใคร สอนกันอย่างไรก็คงจะไม่เท่าสร้างประสบการณ์ด้วยตนเอง ลงมือและลงทุนด้วยตนเอง

การลงทุนในธุรกิจใดๆ ล้วนมีความจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ หากไม่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนั้นๆ ดีพอ เงินลงทุนจะมากหรือน้อยก็หายวับไปในพริบตา หลายคนต้องล้มลุกคลุกคลานกว่าจะประสบความสำเร็จได้ เพราะขาด Connection & Network จะหานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เก่งกาจ เชี่ยวชาญ ยอมเปิดทางให้ร่วมลงทุนด้วยเงินลงทุนจำนวนน้อยเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร อย่างมากก็อนุญาตให้เป็นเม่าน้อยในตลาดหลักทรัพย์ เพราะผลประโยชน์มหาศาลไม่มีเหตุผลใด ที่จะต้องแบ่งปันผลประโยชน์จำนวนมหาศาลให้กับใครที่ไม่รู้จัก

ปัจจุบันทุกอุตสาหกรรม ได้นำกลยุทธ์ไปใส่ไว้ใน ทุกส่วนของธุรกิจ เรียกว่าแตะอะไรก็เป็นกลยุทธ์ไปหมด แต่..นั่นก็หมายความว่าการดำเนินธุรกิจเต็มไปด้วยการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนและเป้าหมายชัดเจน และง่ายแก่การตรวจสอบ ตั้งแต่แผนงานไปจนถึงขั้นตอนการปฏิบัติและตรวจสอบประเมินผล

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจที่ต้นทุนค่อนข้างแพง แต่ก็ไม่ต่างไปจากการขายสินค้าทั่วไป ต้นทุนแพงแค่ไหนใครก็สามารถหาซื้อเพื่อขายต่อได้ แต่ปัญหาสำคัญคือ..แล้วจะขายให้ใคร จะหาตลาดจากที่ไหน กลุ่มลูกค้าอยู่ตรงไหน ใครจะมีเงินจำนวนมหาศาลเพื่อจะมาซื้อสินค้าราคานับล้านหรือสิบล้าน ก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องใช้กลยุทธ์ทุกเม็ด และหนึ่งในกลยุทธ์ของการทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่จำเป็นอย่างยิ่ง "Connection & Network" เพื่อที่จะช่วยให้หลายๆ ขั้นตอนในการการดำเนินธุรกิจผ่านไปได้อย่างง่ายดาย จากหลายคน หลายประสบการณ์ ในธุรกิจประเภทเดียวกันหรือเกื้อหนุนกัน จะช่วยให้การทำธุรกิจอสังหาฯ ดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องเผชิญกับวิบากกรรม ไม่ว่าจะการเงิน การตลาด การบริหารจัดการ และยิ่งถ้าได้ Connection & Network ร่วมการวางแผนธุรกิจ วางกลยุทธ์การเงิน การตลาด การขาย การบริหารจัดการ และกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกัน กลายเป็น Partner จาก Connection & Network จะช่วยลดความเสี่ยงที่หากทำด้วยตัวเพียงคนเดียวแล้วก็คงต้องรับความเสี่ยงไปเต็มๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ล้มแล้วอาจจะลุกมาคลานไม่ไหว ตามสไตล์กิจการเจ้าของคนเดียว เข้าทำนองคนเดียวหัวหาย หลายคนพากันรวยเป็นหมู่คณะ

การมี Connection หรือ Network ที่ดีจึงเป็นได้ทั้งจุดแข็ง และโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง.. "องค์ความรู้จากประสบการณ์" ที่จะหาเรียนหรือซื้อขายกันไม่ได้ มีแต่ "การขอเช่า" จ่ายเงินเพื่อจ้างผู้ชำนาญ ขอเช่าประสบการณ์และองค์ความรู้ เพื่อมาพัฒนาปรับปรุงธุรกิจของตนเองในรูปแบบที่ปรึกษา แต่คำว่า consult หรือที่ปรึกษาก็ใช่ว่าจะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเสมอไป เจอที่ไม่ดีแค่เสียเงินเปล่ายังนับว่ามีบุญเก่าหนุนนำ เพราะเลวร้ายสุดอาจต้องประสบกับภาวะขาดทุน เพราะ consult มีความรู้ไม่เพียงพอ และตัว consult เองก็มี Connection & Network ของตัวเองที่อ่อนแอ ไม่ต่างจากผู้พิการซ้ำซ้อน

ในส่วนของการกระจายความเสี่ยง การมี Partner เมื่อกระจายไปแล้วความเสี่ยงจะต่ำมากจนแทบจะเทียบไม่ได้กับ ส่วนแบ่งของความสำเร็จ และความมั่งคั่ง และกรณีบางครั้งที่ธุรกิจอยู่ในภาวะวิกฤติจากปัจจัยแวดล้อมทั้งภายนอกและภายในทุกรูปแบบ Partner จะช่วยพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้จากการระดมความคิด จากที่ยืนอยู่ปากเหวจะประสบภาวะขาดทุนรอมร่อก็พลิกกลับเปลี่ยนการทำกำไรในภาวะวิกฤติได้อย่างงดงาม โดยไม่ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญที่ไม่แน่ชัดว่าเชี่ยวชาญจริงหรือมีความจริงใจแค่ไหนในการให้คำปรึกษา มาเป็น Consult

บางที Partner อาจจะเป็น Affiliate ให้กับธุรกิจได้ด้วย จะส่งผลให้ธุรกิจมีความได้เปรียบคู่แข่งในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องต้นทุน การขาย หรือการตลาด เพราะได้ Partner มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ และหากธุรกิจเติบโตไปเรื่อยๆ กลายเป็นดาวเด่นในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อนาคตดีจาก Affiliate ก็อาจจะกลายเป็น SBU หนึ่งในธุรกิจของท่าน

อสังหาริม ทรัพย์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อบรม สัมมนา รวยด้วยอสังหา 2558 ลงทุน อสังหา ลงทุนบ้าน ลงทุนคอนโด นายหน้า ที่ดิน คอนโด บ้าน อสังหา 2558 กฎหมายอสังหา

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

จัดสรรต่ออายุการยกเว้นผ่อนผันสำหรับโครงการขนาดเล็กถึงปี 2559

ตามที่คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางได้เคยออกประกาศเพื่อยกเว้นผ่อนผันให้กับโครงการขนาดเล็ก (โครงการจัดสรรที่ดินในเขตเมืองที่มีจำนวนแปลงย่อยไม่เกิน 20 แปลงและโครงการจัดสรรที่ดินในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่มีจำนวนแปลงย่อยไม่เกิน 30 แปลง) สองฉบับ ฉบับหนึ่งเพื่อให้ไม่ต้องจัดทำสาธารณูปโภคประเภทสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น หรือสนามกีฬา ผ่อนผันขนาดของถนนที่ใช้เป็นทางเข้าออกสู่ที่ดินแปลงย่อย และระบบประปาอื่นในกรณีที่การประปานครหลวง การประปาภูมิภาค หรือการประปาส่วนท้องถิ่นไม่สามารถให้บริการได้ และอีกฉบับหนึ่งเพื่อยกเว้นการจัดพื้นที่ให้เป็นที่ตั้งสำนักงานของนิติบุคคลของหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งประกาศคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางทั้งสองลักษณะนี้ออกมาครั้งแรกในปี 2552 มีระยะเวลายกเว้นผ่อนผัน 2 ปี และได้ออกประกาศฯใหม่ซึ่งเป็นการต่ออายุการใช้คราวละ 2 ปีมาโดยตลอด

ขณะนี้ได้มีการออกประกาศคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางใหม่ 2 ฉบับแล้ว เพื่อปรับปรุงแก้ไขและขยายระยะเวลาการยกเว้นผ่อนผันได้แก่

1. ประกาศคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง เรื่อง กำหนดนโยบายการจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2556)
2. ประกาศคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง เรื่อง กำหนดนโยบายการจัดพื้นที่ให้เป็นที่ตั้งสำนักงานของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรหรือนิติบุคคลตามกฎหมายอื่น ในการจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม การจัดสรรที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และการจัดสรรที่ดินเพื่ออุตสาหกรรม ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2556)

ประกาศทั้งสองฉบับนี้เป็นการแก้ไขปรับปรุงประกาศฉบับเดิม โดยมีเนื้อหาของการยกเว้นผ่อนผันเช่นเดียวกับประกาศฉบับที่แล้วซึ่งออกเมื่อปี 2554 แต่ในครั้งนี้ขยายระยะเวลาการยกเว้นผ่อนผันออกไปเป็นเวลา 3 ปี คือใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีเนื้อหาที่แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อยคือ ระบบประปา กรณีที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่ไม่มีบริการจากการประปาใดๆ เดิมให้ผู้จัดสรรที่ดินใช้ระบบประปาอื่นได้โดยผ่านการรับรองจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนในประกาศฉบับใหม่กำหนดให้ใช้ระบบอื่นได้โดยให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการจัดสรรที่ดิน

อนึ่ง ขนาดจำนวนแปลงที่จะมีการยกเว้นผ่อนผัน ซึ่งยังคงเดิม ได้แก่
ก. ในเขตกรุงเทพมหานคร เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล หรือเมืองพัทยา ที่มีจำนวนแปลงย่อยไม่เกิน 32 แปลง และเนื้อที่เพื่อการจำหน่ายไม่เกิน 2 ไร่ เว้นแต่เป็นการจัดสรรที่ดินเพื่อการจำหน่ายพร้อมอาคารประเภทอาคารพาณิชย์ให้มีจำนวนแปลงย่อยไม่เกิน 20แปลง และเนื้อที่เพื่อการจำหน่ายไม่เกิน 2 ไร่
ข. ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล ที่มีจำนวนแปลงย่อยไม่เกิน 40 แปลง และเนื้อที่เพื่อการจำหน่ายไม่เกิน 4 ไร่

Download ประกาศฯ ฉบับที่ 8

Download ประกาศฯ ฉบับที่ 4

อสังหาริม ทรัพย์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อบรม สัมมนา รวยด้วยอสังหา 2558 ลงทุน อสังหา นายหน้า ที่ดิน คอนโด บ้าน อสังหา 2558 กฎหมายอสังหา ข่าวอสังหา

รฟม.ปรับแนว-ยุบรวมสถานีสายสีส้ม

บอร์ดรฟม.สรุปปรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มและยุบรวมสถานีรางน้ำและราชปรารภลดผลกระทบเวนคืน ช่วยประยัดค่าก่อสร้างและเวนคืนรวมกว่า 3.6 พันล. เร่งเสนอคมนาคมใน1-2 สัปดาห์นี้ ขอเดินหน้าเฟสแรก วงเงินกว่า 1.1 แสนล.ก่อน หวั่นยึกยักกระทบภาพรวมล่าช้า พร้อมอนุมัติค่าจ้างเดือนละ 3.4 แสนบาท"พีระยุทธ"นั่งผู้ว่าฯคนใหม่

พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้ รฟม.ปรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ระยะทาง 35.4 กม. ใหม่เพื่อลดปัญหาผู้ได้รับกระทบจากการเวนคืนบริเวณ ชุมชนประชาสงเคราะห์ และบริเวณสถานีราชปรารถและสถานีรางน้ำโดยจะสรุปรายละเอียดเสนอเพิ่มเติมไปยังกระทรวงคมนาคมได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ รฟม.ได้เสนอแผนการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมถึงสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กม.วงเงิน 56,691 ล้านบาท และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 29.1 กม. วงเงิน 54,644 ล้านบาทและสายสีส้ม ไปยังกระทรวงคมนาคมแล้วเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ แนวเส้นทางสายสีส้มที่ปรับเปลี่ยนจะเป็นส่วนของเฟสที่ 1 (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ระยะทาง 21.2 วงเงินประมาณ 110,325.76 ล้านบาท จากเดิมที่ช่วงดินแดงจะเลี้ยวไปตามถนนวิภาวดีผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์เพื่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ แล้วจึงเบี่ยงเข้าแนวถนนพระราม 9 ที่หน้า รฟม. และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหงนั้น จะปรับเป็นใช้แนวถนนดินแดงจนถึงถนนพระราม 9 โดยใช้สถานีพระราม 9 เป็นตัวเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล ที่สถานีพระราม 9 ทำให้สายสีส้ม เฟส1 จะเริ่มต้นจาก พระราม 9-มีนบุรี ซี่งการปรับแนวเส้นทางดังกล่าวทำให้ระยะทางสั้นลงและเส้นทางเป็นแนวตรงค่าก่อสร้างและค่าเวนคืนลดลงรวมประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนเฟส 2 (ตะวันตก) จะเป็นช่วงตลิ่งชัน-พระราม 9 จากเดิมคือช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม

นอกจากนี้บอร์ดยังมีมติเห็นชอบให้ยุบรวมสถานีรางน้ำและสถานีราชปรารภ ของรถไฟฟ้าสายสีส้ม เฟส2 (ตะวันตก) ซึ่งมีปัญหาเนื่องจากต้องเวนคืนตึกแถวจำนวน 50 ห้อง ซึ่งผู้ถูกเวนคืนเรียกร้องค่าชดเชยสูงถึง 50 ล้านบาทต่อห้อง ในขณะที่ราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาทต่อห้อง ดังนั้นบอร์ดจึงต้องตัดสินใจหาข้อยุติเพื่อไม่ให้ยืดเยื้อต่อไป ซึ่งการยุบรวมเหลือสถานีเดียวนั้นจะเหลือสถานีราชปรารภไว้ โดยขยับแนวที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีมักกะสัน (รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์) มากขึ้น ซึ่งยอมรับว่า ผู้โดยสารจะต้องเดินไกลขึ้นบ้างแต่จะเชื่อมกับแอร์พอร์ตลิ้งก์สะดวก ซึ่งส่วนนี้ทำให้ค่าก่อสร้างและค่าเวนคืนลดลงรวมอีกประมาณ 3,170 ล้านบาท รวมการปรับเส้นทางและยุบรวมสถานีแล้วทำให้ค่าก่อสร้างสายสีส้มลดลงรวม 3,670 ล้านบาท

ตกลงค่าจ้างผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่เดือนละ 3.4 แสนบาท

พล.อ.ยอดยุทธ กล่าวว่า บอร์ดยังได้รับทราบผลการเจรจาค่าตอบแทนผู้ว่าฯรฟม. คนใหม่ที่อัตรา 3.4 แสนบาทต่อเดือน โดยนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าฯรฟม. ได้รับการสรรหาเป็นผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่ โดยในต้นสัปดาห์นี้ รฟม.จะเสนอผลการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.ไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอครม.เห็นชอบต่อไป เชื่อว่าผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่จะสามารถเริ่มทำงานได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ส่วนการพิจารณารูปแบบจัดหาผู้รับงานเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 27 กม.นั้น พล.อ.ยอดยุทธกล่าวว่า ล่าสุดคณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2536 ยังไม่มีความคืบหน้าในการพิจารณา ซึ่งคงต้องรอให้ผู้ว่า ฯ รฟม.คนใหม่เข้ามาช่วยเร่งดำเนินการรวมถึงการเปลี่ยนตัวประธานคณะกรรมการมาตรา 13 หรือไม่ เพราะเป็นอำนาจของผู้ว่าฯรฟม. ซึ่งบอร์ดต้องการให้ตัดสินใจเรื่องนี้โดยเร็ว เนื่องจากงานจัดหารถต้องใช้เวลาถึง 36 เดือนหลังลงนามในสัญญา ซึ่งอาจทำให้การเปิดให้บริการล่าช้าออกไป แต่ขณะนี้ รฟม.ยังมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้สามารถเปิดบริการได้ภายในปี 2561 ตามแผนที่วางไว้

ที่มา: http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000006563

อสังหาริม ทรัพย์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อบรม สัมมนา รวยด้วยอสังหา 2558 ลงทุน อสังหา นายหน้า ที่ดิน คอนโด บ้าน อสังหา 2558 กฎหมายอสังหา ข่าวอสังหา

'คอนโด'แนวรถไฟฟ้ายังบูม

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยปี 2558 ผู้ประกอบการจะยังให้ความสำคัญกับการลงทุนตามแนวโครงข่ายรถไฟฟ้าเดิมที่เปิดให้บริการและส่วนต่อขยายที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าธุรกิจบ้านจัดสรรจะขยายตัวต่อเนื่องโดย คาดว่าจะเปิดหน่วยขายประมาณ 4.5-4.8 หมื่นยูนิต ใกล้เคียงกับปี 2557

ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียม จะเติบโตค่อนข้างมาก เป็นผลมาจากการขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าที่ออกสู่ชานเมืองมากขึ้น อาทิ โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 เส้นทาง ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) สายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) และสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) รวมถึง อีก 4 เส้นทางใหม่ที่จะประมูลในปีหน้า ประเมินปีหน้าจะมีซัพพลายเปิดขายสูงเกือบ 7-8 หมื่นยูนิต จากทั้งปี 2557 มีซัพพลายเปิดใหม่ประมาณ 6.5-6.8 หมื่นยูนิต

โดยทำเลเด่นที่จะเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ปี 2558 จะขยายไปยังชานเมืองตามแนวรถไฟฟ้าชานเมือง คือ ย่านเพชรเกษม-บางหว้า สมุทรปราการ นนทบุรี บางบัวทอง โดยทำเลที่ได้รับความนิยมและจะเติบโตสูงจะเป็นโซนบางบัวทอง เนื่องจากมีโครงการห้างสรรพสินค้า "เกตเวย์" ของกลุ่มเซ็นทรัลที่เตรียมเปิดให้บริการในปี 2558

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือซีบีอาร์อี จากราคาที่ดินใจกลางเมืองปัจจุบันมราคาสูงกว่า 1 ล้านบาทต่อตร.ว. ประกอบกับ ที่ดินใจกลางเมืองหาได้ยากขึ้น คาดว่า คอนโดที่จะเปิดตัวในปีหน้า ในทำเลใจกลางเมือง เช่น วิทยุ หลังสวน สุขุมวิทตอนต้นถึงทองหล่อ จะมีราคาเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ในช่วงระหว่าง 2.5-3 แสนบาทต่อตร.ม. หรือปรับขึ้น 5-10% จากปีที่นี้ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2 แสนบาท และอาจจะเห็นคอนโดสร้างสถิติราคาใหม่ขึ้นไปแตะที่ 4 แสนบาทต่อตร.ม.

"เชื่อว่าราคาจะขึ้นต่อไปในปี 2558 แต่จะขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าปีนี้ ที่ปรับขึ้น 10-15% เนื่องจากราคาคอนโดปรับขึ้นแบบก้าวกระโดดในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา”

ส่วนทำเลที่ยังขยายตัวได้ คือ ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ สุขุมวิท ทองหล่อ รัชดาภิเษก รวมทั้งทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินที่กำลังจะแล้วเสร็จ รวมถึงบริเวณจุดตัดของรถไฟฟ้า นอกจากนี้ มองว่าทำเลย่านพระราม 3 สาธุประดิษฐ์ มีโอกาสที่จะขยายตัวได้ดี เนื่องจากใกล้เมืองและราคาที่ดินยังไม่สูงมากนัก

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

อสังหาริม ทรัพย์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อบรม สัมมนา รวยด้วยอสังหา 2558 ลงทุน อสังหา นายหน้า ที่ดิน คอนโด บ้าน อสังหา 2558 กฎหมายอสังหา ข่าวอสังหา

กฎหมายควรรู้สำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มือใหม่

การจะเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะระดับใด คงจะหลีกเลี่ยงการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หากเกิดความผิดพลาดในส่วนของกฎหมายบางอย่างอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างยากที่จะแก้ไข ดีที่สุดคือเรียนรู้และทำให้ถูกต้องจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียเงินภายหลัง