วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

ยักษ์ค้าปลีกแห่ยึดเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด ตลาดชายแดนหมื่นล้านเดือด

ยักษ์ค้าปลีกเคลื่อนทัพบุกเขตเศรษฐกิจพิเศษ "แม่สอด" รับเม็ดเงินจับจ่ายสะพัดหมื่นล้าน "เซ็นทรัล" ส่งโรบินสันบุก "เทสโก้ โลตัส" เพิ่มพื้นที่รับดีมานด์ทะลัก ด้าน "เอ็มบีเค" เอาด้วยเปิดสาขาแรกใน ตจว. "แม็คโคร" ชิงเจาะตลาดเมียนมาร์


ขณะที่หลายหน่วยงานกำลังเดินหน้าโครงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ระยะแรก 6 พื้นที่ ประกอบด้วย จ.ตาก สระแก้ว ตราด มุกดาหาร สงขลา และหนองคาย ตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะแผนเร่งด่วนการผลักดันเขตเศรษฐกิจ 2 แห่งที่แม่สอด จ.ตาก และอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ให้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้

ส่วนภาคเอกชนเริ่มตื่นตัวเตรียมแผนรองรับ ทั้งกลุ่มทุนใหญ่จากส่วนกลาง ทุนท้องถิ่น นักลงทุนต่างชาติเข้าจับจองซื้อที่ดินขยายฐานธุรกิจ โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดเพื่อรองรับการค้าการลงทุนตามแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน

กลุ่มเซ็นทรัลส่งโรบินสันบุก

แหล่งข่าวระดับสูงกลุ่มเซ็นทรัลกล่าวกับ"ประชาชาติธุรกิจ"ว่า ตามแผนการลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งให้ความสำคัญในตลาดอาเซียนและเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงจังหวัดที่เป็นการค้าชายแดนหลัก เนื่องจากมีมูลค่าการเติบโตในแต่ละปีมหาศาลและมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจแม่สอด ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลเข้าไปศึกษาตลาดและเตรียมแผนลงทุนเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุดตัดสินใจจะส่ง "โรบินสัน" เข้าไปลงทุนในรูปแบบไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ร่วมกับแม็กเนตในเครือเซ็นทรัล บนพื้นที่ 54,000 ตร.ม.

"โรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ แม่สอด กำลังก่อสร้าง ตามแผนงานจะเปิดในปีนี้ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมเซ็นทารา แม่สอด ฮิลล์ รีสอร์ท"

แหล่งข่าวจากกลุ่มเซ็นทรัลยังขยายความด้วยว่า ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เขตเศรษฐกิจแม่สอดมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีทั้งคอนโดมิเนียม, โครงการบ้านจัดสรร และอาคารพาณิชย์ เกิดขึ้นทั้งสองฝั่งถนนและเกือบทุกสายในเขตตัวเมืองแม่สอด รวมถึงค้าปลีกทุกรูปแบบที่เตรียมเข้าไปลงทุนเพื่อเปิดตลาดค้าปลีกไทย-พม่า

เทสโก้อัพเกรดสาขารับดีมานด์พุ่ง

นางสาวสลิลลาสีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารเทสโก้ โลตัส กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การพัฒนาแม่สอดเป็นเขตเศรษฐกิจจะทำให้การค้าบริเวณนั้นมีความคึกคักยิ่งขึ้น ในแง่ของการดึงดูดนักลงทุนรายใหม่ ๆ เข้ามา และค้าปลีกได้รับอานิสงส์จากการเพิ่มขึ้นของลูกค้า ที่ผ่านมาสาขาที่แม่สอดของเทสโก้ เป็นโมเดลไฮเปอร์มาร์เก็ต และที่ผ่านมาได้อัพเกรดให้เป็นโมเดลเอ็กซ์ตร้า ซึ่งพื้นที่ร้านค้าเช่าทั้งผู้เช่ารายย่อยในท้องถิ่นและแบรนด์ดังที่มองเห็นศักยภาพ และมีลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจับจ่ายจำนวนมาก สินค้าที่ขายดีหลัก ๆ เป็นกลุ่มสินค้าอุปโภค บริหาร รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในบ้าน สินค้าแฟชั่น และยอดซื้อต่อครั้งค่อนข้างจะสูง

"จากนี้ไปแม่สอดน่าจะทำคึกคักยิ่งขึ้น ลูกค้าตามชายแดนข้ามมาซื้อของ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของท้องถิ่น เทสโก้เปิดร้านในท้องถิ่นมีการจ่ายภาษีท้องถิ่น มีการจ้างงานในพื้นที่"

MBK ผุดค้าปลีก 2 หมื่น ตร.ม.

นายศักดิ์ชัย เก่งกิจโกศล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีแผนการลงทุนเพื่อรองรับการเปิดตลาดอาเซียน โดยเฉพาะการขยายธุรกิจค้าปลีกไปยังเขตแนวเศรษฐกิจชายแดนทั้ง 9 เขต อาทิ ตราด ปราจีนบุรี มุกดาหาร และแม่สอด เป็นต้น เนื่องจากเมื่อเปิด เออีซีแล้วจะทำให้ตลาดนี้ใหญ่ขึ้น ส่วนการลงทุนจะเป็นการร่วมทุนหรือพาร์ตเนอร์คนท้องถิ่น ในรูปแบบไลฟ์สไตล์มอลล์ ขนาดพื้นที่ประมาณ 20,000 ตร.ม. ซึ่งโครงการที่แม่สอดจะเป็นแม่แบบก่อนที่จะขยายการลงทุนไปยังเขตเศรษฐกิจอื่น ๆ

"เริ่มที่แม่สอดก่อน เพราะเป็นย่านการค้าชายแดนที่ใหญ่มีเงินสะพัดมากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะใช้แบรนด์เอ็มบีเค ซึ่งเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว โดยเฉพาะลูกค้าชาวต่างชาติ และถือว่าเป็นสาขาแห่งแรกในต่างจังหวัดของเอ็มบีเคด้วย"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้เปิดสาขาแม่สอด จ.ตาก ชายแดนไทยที่มีพรมแดนติดต่อกับจังหวัดเมียวดี ของประเทศเมียนมาร์

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การขยายสาขามาที่เมืองชายแดนไทย-เมียนมาร์ ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นสาขาที่ 73 ถือเป็นนโยบายเชิงรุกทางธุรกิจ โดยมองไปที่ตลาดในเมียนมาร์ ทั้งที่ จ.เมียวดี และจังหวัดอื่น ๆ ของเมียนมาร์ ที่จะเดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้า และเล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของแม่สอด พื้นที่หน้าด่านธุรกิจการค้า การขนส่งระหว่างประเทศ ที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงถึงปีละ 50,000-60,000 ล้านบาท

ตจว.-เขต ศก.พิเศษมาแรง

สอดคล้องกับ นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ฉายภาพว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกปีนี้ว่าจะสามารถขยายตัวได้ 6.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่เติบโตได้เพียง 3.2% เท่านั้น หรือเม็ดเงินสะพัด 3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.7 ล้านล้านบาทในปีก่อน ความเคลื่อนไหวที่เด่นชัด คือการลงทุนรองรับตลาดในอนาคต โดยเฉพาะในต่างจังหวัดและพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะช่วยกระตุ้นตลาดได้ และประเมินว่าภายในปี 2560 สัดส่วนค้าปลีกต่างจังหวัดจะขยับเป็น 72% จากปัจจุบัน 65% และเป็นสัดส่วนกรุงเทพฯ 35%

"ตอนนี้จะยังไม่มีใครบอกและประกาศว่าจะไปปักธงในพื้นที่ใดของเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะเป็นความลับทางธุรกิจ แต่เชื่อว่าไม่มีใครจะยอมตกขบวนอย่างแน่นอน เพราะเป็นตลาด-โอกาสใหม่ทางธุรกิจ ไม่เพียงกลุ่มลูกค้าในประเทศแถบชายแดน แต่ยังรองรับลูกค้าต่างประเทศที่จะมีเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล"

สอดคล้องกับตัวเลขวิจัยพฤติกรรมการจับจ่ายของลูกค้าในตลาดชายแดนนายธีรเดชดำรงค์พลาสิทธิ์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจรีเทลมีเดีย ประเทศไทย บริษัท ดันน์ฮัมบี้ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ได้ศึกษาพฤติกรรมซื้อสินค้าผู้บริโภคใน 8 จังหวัดไทยที่รอยต่อติดประเทศเมียนมาร์ กัมพูชา ลาว อาทิ เชียงราย ตาก ระนอง หนองคาย นครพนม มุกดาหาร ศรีสะเกษ และสระแก้ว ระหว่างเดือนตุลาคม 2556 ถึงเดือนกันยายน 2557 พบว่าการจับจ่ายใช้สอยต่อครั้งของผู้บริโภคเฉลี่ยอยู่ที่ 641 บาท เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น ๆ ที่มีการจับจ่ายเฉลี่ย 317 บาท และรายการสินค้าที่นิยมซื้อคือ เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน และอาหารสด เป็นต้น


ที่มา: http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423811406

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น